เที่ยวอิสราเอล : 8 เหตุผลที่จะเปลี่ยนภาพในหัวของคุณตลอดไป

เที่ยวอิสราเอล: 8 เหตุผลที่จะเปลี่ยนภาพในหัวของคุณ

  • icon_zoom.png
    เที่ยวอิสราเอล: 8 เหตุผลที่จะเปลี่ยนภาพในหัวของคุณตลอดไป เที่ยวอิสราเอล: 8 เหตุผลที่จะเปลี่ยนภาพในหัวของคุณตลอดไป
     
     
    (ที่มา: Travelkanuman.com)
     
    อิสราเอล ถ้าพูดชื่อนี้ขึ้นมา นักท่องเที่ยวชาวไทยหลาย ๆ คนคงนึกภาพไม่ออกว่าจะไปทำอะไรที่นั่น เพราะด้วยข่าวที่ออกมาตลอดเวลาถึงความไม่สงบในประเทศ ทำให้ภาพการแย่งชิงดินแดน และสงคราม เป็นภาพที่คนไทยเห็นจนชินตาและนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อนึกถึงอิสราเอล
     
    แต่ที่จริงแล้ว ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีอะไรมากกว่านั้น มีสิ่งน่าสนใจที่มากกว่าแค่เรื่องสงครามและความขัดแย้ง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่เราไม่รู้จัก  กิจกรรมและเรื่องราวมากมายที่จะทำให้ภาพของอิสราเอลที่เราคุ้นเคยเปลี่ยนไป ฉะนั้นเราจะพาไปดูว่า อิสราเอลในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
     

    (View from Galilee Mountains to Galilee Sea, Kinneret, Israel. Golan Heights.)
      
    อิสราเอลเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่โตนัก มีพื้นที่ 8550 ตารางไมล์ มีประชากรประมาณ 8,000,000 คน โดยปกติพูดภาษา ฮิบรูและอังกฤษ  อุณหภูมิ 8-35 องศา โดยส่วนใหญ่จะแล้ง ยกเว้นหน้าหนาวที่จะมีฝนตกอยู่บ้าง และบางส่วนมีหิมะตก
     
    ประเทศนี้มีความหลากหลายของประชากรในเมืองใหญ่อย่าง Tel aviv ค่อนข้างมาก มีชาวยิวที่ย้ายกลับมาจากที่ต่าง ๆ ของโลกอย่างมากมาย ทำให้วัฒนธรรมอาหารของที่นี่เป็นจุดแข็งอย่างมาก มีการผสมผสานกันอย่างไม่สิ้นสุด ส่วนธุรกิจหลักของประเทศคือ เทคโนโลยีทั้งหลาย ที่นี่ถือเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของโลกแห่งหนึ่ง มีการวิจัยต่าง ๆ มากมาย นับว่าเป็นประเทศหัวกะทิในด้านการพัฒนาเลยทีเดียว
     
    และนี่คือสถานที่ต่าง ๆ ที่เราขอแนะนำ รับรองว่า เห็นทั้งหมดนี้แล้ว ภาพของอิสราเอลของคุณ จะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

    JERUSALEM

    อิสราเอลนับเป็นประเทศที่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งมาก เป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าอย่างมากมาย เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกหลาย ๆ แห่งก็อยู่ในประเทศนี้ เรียกได้ว่าตำนานเล่าขานชื่อดังต่าง ๆ มีจุดกำเนิดส่วนมากจากที่นี่ก็ว่าได้ เราจะขอแนะนำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแหล่งให้รู้จักกัน
     
    สิ่งที่คนทั่วโลกรู้จักดีที่สุดเกี่ยวกับอิสราเอลคือที่นี่นั่นเอง Jerusalem  ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์มากมายซ้อนทับกันอยู่ที่พื้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งนี้
     
    (View to Jerusalem old city. Israel)
     
    Jerusalem เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัวสูง เนื่องจากถูกปกครองโดยหลาย ๆ ฝ่าย ในแต่ละยุคสมัย มีเรื่องราวเล่าขานมากมาย ทั้งในศาสนาคริสต์ที่  Jerusalem ถือเป็นต้นกำเนิดของทุกอย่าง เหตุการณ์สำคัญในพระคัมภีร์ ถูกจารึกไว้ว่าเกิดขึ้นที่นี่  ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ที่ภูเขามะกอกเทศที่ตั้งอยู่ใกล้กำแพงเมืองเก่า  ที่นี่ยังถือเป็นดินแดนสำคัญสำหรับชาวมุสลิมที่เชื่อว่าเป็นเมืองที่นบีมุฮัมมัดถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ และชาวยิวก็ถือเอาส่วน Western wall เป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเช่นกัน นั่นเองทำให้ Jerusalem เป็นเมืองหลวงของประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคนในอิสราเอล และผู้คนมากมายทั่วโลก
     
     
    ภายในเมืองเก่า เราจะพบกับบรรยากาศการค้าขายที่คึกคัก ผู้คนมากมาย และมีศาสนสถานต่าง ๆ อยู่มากมายหลายแห่งจากทั้ง คริสต์ อิสลามและยูดาห์ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวและน่าหลงไหลเป็นที่สุด แนะนำให้ใช้เวลาที่นี่ไม่ต่ำกว่า  3 วัน เพราะมีอะไร ๆ ให้ชมเยอะมาก
     
     

    SEA OF GALILEE

    ทะเลสาบอันเป็นต้นกำเนิดของเรื่องเล่ามากมาย เป็นสถานที่ที่พระเยซูทรงแสดงปาฏิหาริย์หลาย ๆ อย่างในพระคัมภีร์ เช่น การเดินบนน้ำ การเพิ่มจำนวนขนมปังและปลา และการแสดงคำสอนต่าง ๆ ก็ทรงแสดงในบริเวณนี้
     

    (View from Galilee Mountains to Galilee Sea, Kinneret, Israel. Golan Heights.)
     
    พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ทะเลสาบนั้นนอกจากจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ก็ยังเหมาะที่จะพักผ่อนในวันหยุดด้วย ทำให้คนอิสราเอลมักจะมาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในวันสุดสัปดาห์ มีโรงแรมและบ้านพักให้บริการมากมายในบริเวณนี้
     
     

    DEAD SEA

    ที่อิสราเอลนั้นมีความแตกต่างทางภูมิศาสตร์อย่างมาก ทำให้ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ มีทั้งทะเลทราย ภูเขาสูง หิมะตก ทะเลสาบ ชายหาด  เรียกได้ว่ามีสภาพภูมิประเทศเกือบจะทุกแบบเลยทีเดียว และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจก็มีอยู่อย่างมากมาย
     
     
    Dead sea เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก โดยสามารถเข้าชมได้จากสองประเทศคือ Israel และ Jordan  มีความกว้าง 18 กิโลเมตร ยาวกว่า 76 กิโลเมตร  พื้นที่โดยประมาณ 1,020 ตารางกิโลเมตร  โดยคนอาหรับจะเรียกที่นี่ว่า อัลบาห์รัลไมยิต ซึ่งแปลว่าทะเลมรณะ หรือ Dead sea นั่นเอง  โดยที่นี่มีความเค็มมากกว่าทะเลทั่วไป 6 เท่า มีความเข้มข้นของแร่ธาตุต่าง ๆ สูงมาก   จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 400 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งในจุดที่ลึกมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และแน่นอนว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่ในทะเลแห่งนี้ เว้นแต่แบคทีเรียบางชนิดเท่านั้น

     
    สิ่งที่ทำให้  dead sea มีชื่อเสียงนั่นก็คือ ความเข้มข้นของน้ำนี่เองที่ทำให้เราสามารถลอยตัวในทะเลได้อย่างสบาย ใคร ๆ ก็ลองลงไปลอยตัวที่นี่กัน แต่ว่าสิ่งที่ต้องระวังคือ อย่าให้หน้าโดนน้ำเด็ดขาด โดยเฉพาะส่วนลูกตา มีโอกาสได้รับอันตรายสูงทีเดียว
     
     
    นอกจากนี้ระหว่างเส้นทางเลียบกับ Deadsea ภูมิทัศน์แถบนี้ยังน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่งให้แวะเยี่ยมชม และหนึ่งในอุทยานที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ Masada

    MASADA

    ที่นี่คือป้อมปราการโบราณที่มีอายุมากกว่า 2000 ปีมาแล้ว สร้างขึ้นโดย Herod the Great  ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศ
     

    (Masada fortress. Ruins of King Herod’s palace in Judaean Desert.)
     
    ภูมิทัศน์บริเวณนั้นแปลกตาและยิ่งใหญ่มาก เป็นภูเขาสลับซับซ้อน  มองไกลออกไปก็จะเห็น Deadsea รวมถึงพื้นที่ฝั่ง Jordan ด้วย โดยการขึ้นไปชมบน Masada นั้น สามารถขึ้นเคเบิ้ลคาร์ได้ หรือหากต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็สามารถเดินขึ้นไปได้ตั้งแต่ราวตี 5
     
     

    THE BAHÁ’Í GARDENS 

     (The Bahai gardens and temple, on the slopes of the Carmel Mountain, in Haifa, Israel.)
     
    สวนสวยที่สร้างขึ้นโดยผู้นับถือศาสนาบาไฮ ซึ่งเป็นศาสนาที่มีความเชื่อเรื่องพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกอย่างบนโลกนี้ โดยตัวสวนนี้ตั้งอยู่บนเทือกเขา Camel มีลักษณะเป็นสวนสวยจัดลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันไดทั้งหมด 7 ชั้น เป็นระเบียงดอกไม้
     
     
    จากบริเวณด้านบนของสวน เรายังสามารถมองเห็นเมือง Haifa ได้จากมุมสูงอีกด้วย ซึ่งเมืองนี้ถือเป็นเมืองที่มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยีอย่างมาก บริษัทดัง ๆ ล้วนมาเปิดฐานที่นี่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Microsoft , google ,IBM และอื่น ๆ อีกมากมาย  นั่นทำให้ที่นี่ถือเป็นเมืองที่ถือเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว
     

     ศูนย์กลางอาหาร

     
    ใครเล่าจะไปคาดคิดว่าประเทศที่ภาพลักษณ์แห้งแล้งอย่างอิสราเอลจะเป็นศูนย์กลางอาหารของประเทศแถบนี้ได้ เราคนนึงล่ะที่ประหลาดใจเอามาก ๆ
     
    จริง ๆ แล้วดินแดนแถบนี้ค่อนข้างแห้งแล้งเพราะปลูกอะไรไม่ค่อยได้ แต่ด้วยความพยายามของคนในชาติ รวมกันคิดค้นเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนดินให้เพาะปลูกได้ รวมถึงเทคโนโลยีชั้นสูงด้านการชลประทาน ทำให้ที่นี่สามารถปลูกพืชผักหลาย ๆ ชนิดได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่ตรงจุดนี้เหมือนเป็นรอยต่อของสามทวีป ทั้งยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ทำให้วัฒนธรรมอาหารและวัตถุดิบหลากหลายมาก
     
     
    ชาวยิวที่ย้ายกลับมาจากหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วัฒนธรรมอาหารที่นี่หลากหลาย เพราะเมื่อคนที่มาจากฝรั่งเศสแต่งงานกับคนที่มาจากโปแลนด์ อาหารภายในบ้านก็จะถูกผสมผสานกัน จนได้อาหารชนิดใหม่ออกมา และการผสมผสานก็ไม่มีที่สิ้นสุด ที่นี่เราจะพบอาหารที่หลากหลายมาก ๆ ตั้งแต่ของที่คล้ายแกงของเอเชีย ไปจนขนมปังแบบชาวยุโรป
     

     TEL AVIV 

     
    เมืองท่า เมืองที่เจริญที่สุด เมืองที่ผู้คนมากมายหลายสัญชาติอยู่รวมกัน ที่นี่เราจะพบชีวิตเมืองแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าอิสราเอลเป็นแบบนี้ ที่นี่เจริญมาก บ้านเรือนดูสะอาดตา มีการก่อสร้างย่านทันสมัยใหม่ ๆ ขึ้นตลอดเวลา ร้านอาหาร บาร์ และห้างหรูหรามีกระจายอยู่ทั่วเมือง ถ้าต้องการตั้งต้นสำหรับการเดินทางในอิสราเอล ที่ tel aviv เหมาะสมที่สุด
     

    AKKO

     
    เมืองมรดกโลกทางตอนเหนือของอิสราเอล เป็นเมืองสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ในสมัยโบราณ เนื่องจากตั้งอยู่ติดกับทะเล ทำให้มีการสร้างเมืองขึ้นมาคล้ายป้อมปราการ
     
    เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก โดยนักประวัติศาสตร์กรีกโบราณนั้นเรียกเมืองนี้ว่า AKE  ที่แปลว่า รักษา เนื่องจากมีตำนานเล่าถึงการค้นพบสมุนไพรที่รักษาตัวเองได้ที่นี่ ต่อมาหลังจากอเลกซานเดอร์มหาราชเข้ายึดครอง ก็ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Antiochia Ptolemais  โดยเมืองนี้ผ่านสงครามครั้งยิ่งใหญ่มาหลายครั้ง เช่นสงครามระหว่างเปอร์เซีย และอียิปต์ ในยุคก่อนคริสตกาล  จากนั้นเมืองก็ถูกเปลี่ยนมือไปอีกหลายครั้งหลายครา จนมีการก่อตั้งประเทศอิสราเอลนั่นเอง
     
     
     
    และนั่นเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนภาพลักษณ์ของอิสราเอลไปอย่างมากหลังจากได้มาเยือน  ที่นี่มีทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัย บ้านเรือนที่เจริญแล้ว และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและเก่าแก่ไม่ได้แพ้ดินแดนใดในโลกเลย
     
    ในตอนต่อไป เราจะพาไปเจาะลึกถึงวัฒนธรรมอาหารของอิสราเอลกัน ว่าอาหารอะไรที่นั่นเป็นที่นิยมกัน และมีอาหารอะไรที่เราแนะนำบ้าง