แขกผู้มีเกียรติกว่า 1000 ท่าน ร่วมชมคอนเสิร์ต “ของขวัญจากเสียงเพลง” ฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศอิสราเอลและราชอาณาจักรไทย ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพฯ ภายใต้การอำนวยเพลงของ ชาเลฟ เอด-เอล พร้อมกับศิลปินอิสราเอล คาเร็น ฮาดาร์ (นักร้องโซปราโนมากความสามารถ) อเมียร์ เกวิซแมน (นักดนตรีด้านเครื่องเป่า) และนักร้องนำชายจากประเทศไทย กิตตินันท์ ชินสําราญ
การแสดงเริ่มต้นด้วยการโหมโรงเพลง Alimelek ประพันธ์เพลงโดยนักประพันธ์เพลงชาวอิสราเอล เมเยอร์เบียร์ อำนวยเพลงโดย ชาเลฟ ตามมาด้วยเสียงร้องอันแสนไพเราะและทรงพลังของ คาเร็น ผู้ตีความและถ่ายทอดเพลง “Una Voce Pocofa” และ เพลงแนวยิปซี “Chanson Boheme” ของบิเซต์ รวมถึงเพลง “Jerusalem of Gold” บทประพันธ์ของ นาโอมิ ชาเมียร์ ได้อย่างไพเราะและงดงาม และทำให้ผู้ชมบางส่วนน้ำตาซึม
นักร้องนำชายจากประเทศไทยและคาเร็น ร่วมกันขับร้องเพลง “Toreador” ซึ่งเป็นบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงจากโอเปราคาร์เมน โดยมีผู้ชมประสานเสียง ศิลปินทั้งคู่ยังร่วมกันขับร้องเพลง “Tonight” จากละครเวที West Side Story อีกด้วย
อเมียร์ เกวิซแมน ได้สะกดผู้ชมไว้ด้วยความสามารถที่หาตัวจับยากในการเล่นแซ็กโซโฟนด้วยมือเพียงข้างเดียว และเครื่องเป่าหลายประเภทจากทั้วโลก อเมียร์ผสมผสานและถักทอเสียงเพลงจากหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างไพเราะ คำพูดของเขาที่ว่า “เครื่องเป่าเปรียบเสมือนคน ทุกๆ คนในโลกนี้ เราอาจจะมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน มีภาษาที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ความสามัคคีปรองดองซึ่งกันและกัน มิใช่การทำลายล้างกันและกัน เราทุกคนมีความพิเศษในความเป็นมนุษย์ร่วมกัน”
ไฮไลท์ในตอนท้ายของคอนเสิร์ตที่ที่เปี่ยมไปด้วยเสียงหัวเราะและการมีส่วนร่วมของผู้ชมคือ การแสดงร่วมกันของศิลปินจากทั้ง 2 ประเทศ ในเพลงพระราชนิพนธ์ “แสงเทียน” และ “แสงเดือน”
คอนเสิร์ตพิเศษครั้งนี้จบลงอย่างสนุกสนานรื่นเริง นับเป็นของขวัญจากเสียงเพลงที่นำเราทุกคนมารวมกันอย่างแท้จริง