สองสัปดาห์ก่อนวั
นเลือกตั้งทั่วไปในอิสราเอล จะมีการเปิดคูหาเลือกตั้ง ณ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลอิสราเอลทั่วโลก
การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 21 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2562 ในวันนั้น ประชาชน 6.3 ล้าน จากประชากรชาวอิสราเอล 8.5 ล้านคน มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้ง 10,000 แห่ง
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 5,137 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐและผู้แทนของหน่วยงานระดับชาติในต่างประเทศจะมาออกเสียงเลือกตั้ง ณ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล 96 แห่ง ใน 77 ประเทศทั่วโลก
การใช้สิทธิ์ออกเสียงจะเริ่มต้นจากสถานเอกอัครราชทูตในกรุงเวลลิงตัน และจะเสร็จสิ้นหลังจากนั้นอีก 24 ชั่วโมง ที่สถานกงสุลในนครนิวยอร์ค
เมื่อการเลือกตั้งนอกประเทศสิ้นสุดลง จะส่งกล่องคะแนนเสียงไปยังรัฐสภาคเนสเซ็ท ผ่านทางถุงเมลการทูตพิเศษ ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีการบรรจุลงกล่องนิรภัยจนกว่าการเลือกตั้งจะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในอิสราเอล
ในกรุงเทพฯ ข้าราชการอิสราเอลที่มารับตำแหน่งในประเทศไทย จะใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ณ สถานเอกอัครราชทูต เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ฯพณฯ ดร.เมเอียร์ ชโลโม ผู้มาออกเสียงเลือกตั้งพร้อมภริยากล่าวว่า “การเลือกตั้งในประเทศไทยผ่านไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของอิสราเอลบ้าง ทุกครั้งในวันออกเสียงเลือกตั้ง เราฉลองและภูมิใจที่มีระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง วันนี้เรามาใช้สิทธิ์ซึ่งเป็นหลักสำคัญอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุนี้เราจึงตื่นเต้นมากและหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดอนาคตของเรา”
ข้อมูลทั่วไป
นับตั้งแต่การสถาปนาประเทศเมื่อพ.ศ.2491 อิสราเอลเป็นประเทศประชาธิปไตยในระบอบรัฐสภา ในคำประกาศสถาปนาประเทศให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันของประชากร โดยไม่แบ่งแยกเพศ ศาสนา และเชื้อชาติ สิทธิของประชาชนชาวอิสราเอลทุกคนจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและในทางปฏิบัติ
รัฐสภาอิสราเอล ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเลม เรียกว่าสภาคเนสเซ็ท ประกอบด้วยสมาชิก 120 คน ที่มาจากการเลือกตั้งทุก 4 ปี ตามระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วน
หัวหน้าพรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากเสียงข้างมากในสภา (โดยปกติแล้วมาจากพรรคแนวร่วม) จะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี
ชาวอิสราเอลมีความเป็นปึกแผ่นและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในสังคม โดยเฉลี่ยแล้วจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งสูงถึงร้อยละ 72